วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ถาม


ปัตตานีคุเคล้า กลิ่นคาวเลือด
กลับมาเดือดอีกครั้ง รั้งไม่อยู่
เพราะขาดการเอาใจใส่ สนใจดู
สังเวยครูเป็นเหยื่อ นโยบาย

แก้ลวกลวกยิ่งกว่า ลวกบะหมี่
ปัตตานีจึงเดือดอยู่ มิรู้หาย
ยังคงมีนิยาม ของความตาย
กระสุนนัดสุดท้าย จากปลายปืน

จะยืนหยัดต่อไป อย่างไรเล่า
เด็กคงเขลาต่อไป ใจสะอื้น
เมื่อครูผู้สร้างสรรค์ ทุกวันคืน
ไร้ที่ยืนบนแผ่นดิน มิคสัญญี

จะโหดร้ายเกินไป หรือเปล่านะ
ถึงรานระครูไทย ไร้ทางหนี
ไม่รู้สึกรู้สา เลยฤดี
ว่ายังมีภาคใต้..ที่ชายแดน


วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

อย่ายึดติด





ปลิดปลิวเคว้งคว้าง ร้างต้น
ร่วงหล่น บนพื้นหญ้า
ฝนโบกโบยร่วง โรยรา
ไม่ช้าเหี่ยวเฉา เคล้าดิน

ยึดอะไรกัน นักหนา
ของข้าของกู ไม่รู้สิ้น
ตายไปมิได้ ยลยิน
โหยถวิลมากไป..ก็เท่านั้น



เซ่นสังเวยกี่ศพ จึงจบสิ้น



เซ่นสังเวยกี่ศพ จึงจบสิ้น
ชีวิตที่แหว่งหวิ่น จากถิ่นใต้
พี่น้องเอ๋ยใครฆ่า ต้องมาตาย
โทษแต่ความโชคร้าย เป็นรายวัน

รัฐบาลอยู่ไหน ใครรู้บ้าง
มัวแต่กางรัฐธรรมนูญ ดูน่าขัน
จะแก้มาตรานี่ มาตรานั่น
พณฯ ท่าน รู้ไหมว่าใครตาย

กี่ศพแล้วที่นับ รับเบี้ยหวัด
เหมือนลมพัดผ่านมา เวลาสาย
มิได้แก้ให้ยั่งยืน กลืน-ขวาก-คาย
เหมือนวัวควาย เข่นฆ่าแกง..แล้งน้ำใจ..





วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โจรสำนึก




ปล้นเขามาตลอด ยามปลอดโปร่ง
หากลโกงหลายวิธี ที่จะได้
ทั้งขู่เข็ญบังคับ รับเอาไป
มากเท่าไรยิ่งดี อิ่มพีมัน

เมื่อสวรรค์มีตา ได้จารึก
จดบันทึกผลกรรม ที่ทำนั่น
หนีใดจะพ้นบ่วง ห้วงโลกันต์
กลับใจก็ไม่ทัน บันทึกแล้ว

ถึงทำบุญด้วยทรัพย์ นับหมื่นแสน
ก็ทดแทนไม่ได้ ใช่ล้างแก้ว
กรรมก็ยังเป็นกรรม ย่ำเป็นแนว
อาจเบาแผ่วลงบ้าง... ใช่ล้างกรรม




วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ยามที่ใจแหว่งหวิ่น




ใครปีกหักร้าวราน ซานมาหา
ก็เยียวยาให้หาย ไร้แผลสิ้น
ให้แรงใจเต็มร้อย แล้วปล่อยบิน
ทั้งที่ใจแหว่งหวิ่น สิ้นราคา

Mattsi Peematt
เป็นที่พึ่ง ร่มไทร ให้ใครรัก
ใครขาแง่ง แข้งหัก มักมาหา
เป็นที่พัก คนเศร้า เหล่านกกา
เป็นบุญตน บุญตา สง่างาม...

น้ำตาไหลในอก สะทกสะท้าน
แกล้งหน้าบานเต็มหน้า ว่าใจชื่น
แท้ที่จริงอกร้าว เกินกล่าวกลืน
จำต้องฝืนยืนอยู่ เพื่อผู้คน..


วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อุ่นไอป่า


แสงฉายฉานซ่านแผ่ แผลน้ำค้าง
หนาวคงจางร้างเลือน ให้เหมือนเก่า
อุ่นไอรักโอบกอด พรอดเบาเบา
ใต้ร่มเงาแห่งป่า คราหนาวเยือน..


ประทวน พิกุลทอง
เมื่อแสงฉานปานไฟจนไหม้เผา
เจ้าดอกเหงา กลับบาน ตามกาลเคลื่อน
คนห่างไกล ไฉนหนา ต้องลาเลือน
คือบทเรียนย้ำเตือนทั้งเดือนปี




สุนันยา ประภาพันธุ์ ...

หยาดหยดน้ำ ฉ่ำใส ปลายดอกขาว
ดูพร่างพราว ราวเพรช ด้วยเม็ดสี
งามสะอ้าน ปานเปรียบ เทียบมณี
เกินกว่าที่ กล่าวชม ให้สมจริง...



วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ปืนบงการ




โอ้! ใจคนช่างดำ ทำกันได้
เห็นความตายเป็นเรื่อง แสวงหา
ไม่พอใจก็สาปส่ง ลงอาญา
ชี้ชะตาชีวิต ให้ปลิดปลง

ด้วยกระสุนไร้ค่า ราคาถูก
ไม่กี่ลูกบงการ สังหารส่ง
สังคมนี้มือดำ ต่ำทรามลง
เมื่อคนชั่วทรนง..ยังบงการ.



วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ข้ามันลูกทุ่ง




ยามได้เห็นทุ่งทอง ต้องแสงค่ำ
กลเขียดร่ำบรรเลง เพลงลูกทุ่ง
เจ้าวัวผอมเล็มหญ้า ป่าละมุง
คนก็ฝันถึงยุ้งข้าว และราวรวง..



บ่น



หาได้เก่งกล้า สามารถไม่
จะลาไปที่ไหน ก็ไม่ได้
ให้อยู่โยงเปิดทาง หรืออย่างไร
ใครต่อใครสมสนอง ตามต้องการ

อะไรกันหนักหนา หนอหน้าที่
ชักจะมีมากไป ไม่สนาน
ยิ้มไม่ออกบอกไม่ได้ ใช้แต่งาน
อารมณ์พาลจะออกฤทธิ์ คิดให้ดี

ราชการงานเมือง ช่างเคืองขัด
ถูกสกัดไม่ให้ลา อย่าซิกซี้
ใครจะไปใครจะมา ข้าฯ ทุกที
ต้องเฝ้าขี้ ทั้งกอง ของใครใคร


วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เลี้ยงรุ่น


สามสิบสาม ปีที่จาก
มันนานมาก ให้คิดถึง
รอวัน อันตราตรึง
อีกครั้งหนึ่ง ได้พบกัน

โอ้จำ กันไม่ได้
มากันไกล จากไหนนั่น
มิตรภาพ ที่ทราบกัน
ทำให้ฉัน นับวันคอย

เฒ่าชะแร แก่ชรา
ด้วยแววตา ฝ้าแก้มย้อย
ผมขาว ก็ไม่น้อย
ทิ้งร่องรอย ประสบการณ์

บ้างเบื่องาน พาลเต็มอิ่ม
จึงต้องยิ้ม ไปเลี้ยงหลาน
เบื่อระบบ ราชการ
จึงนอนบ้าน โบกมือลา

บางคนใหญ่โต โก้เก๋
เป็น ผอ.สุดเท่ เริงร่า
ควงกิ๊ก ริกรี้ เฮฮา
ไม่กล้ารู้จัก ทักทาย

รอยยิ้ม มิตรภาพ แม่นมั่น
ตัวฉัน เหมือนเดิม เริ่มร่าย
โอ้เพื่อน มากัน มากมาย
จำไม่ได้ หลากหลาย ทายทัก

ช่วยทัก กันหน่อย เพื่อนเอ๋ย
ไม่เคย พบปะ มานานนัก
คนละห้อง ใช่ว่า ไม่รู้จัก
อาการหนัก ลืมเลือน เพื่อน สว.

ขอทักทายตรงนี้ นะพี่น้อง
ได้ไม่ต้อง ตกหล่น ให้ตัดพ้อ
รักคิดถึงเพื่อน กี่เดือนรอ
ที่มาก็ หวังพบ ประสบกัน.


ข้ามไม่พ้น จากจิต ติดค้างคา



อินทนินบานรับ กับหน้าหนาว
กลีบร่วงพราวหล่นร่วง จากพวงต้น
เหมือนมนุษย์หยิบจับ แสนอับจน
ข้ามไม่พ้น จากจิต ติดค้างคา

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ดอกไม้ชีวิต




ดอกดาหลาข้างบ้าน ยังบานเด่น
ฤดูกาลผ่านเห็น เช่นวิถี
อีกไม่นานกลีบเฉา ใต้เงานี้
เหมือนกับชีวิตคน..ใช่ทนทาน (โอชิน)

มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ยากจะหาคงขัยนะสังขาร
จะขี้เหร่หรืองดงามไปตามกาล
ก็ต้องผ่านจากกันเป็นมั่นคงฯ (Wut Na Arunruang)

ยากดีมีจน ก็คนนะ
อย่ากักขละเสพสุม จนลุ่มหลง
เผื่อแผ่แบ่งปัน ปลดปลง
ก่อนจะลงสู่ภพ..จบเวลา..(โอชิน)

ใช่ยาวนานกาลวัยในชีวิต
จากเริ่มจนจบปิดจากโลกหล้า
ดี ชั่ว ชื่อชัดเป็นอัตตา
ตราบเมื่อสิ้นชีวาให้โลกจำฯ (Wut Na Arunruang)




วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หยั่งราก



เบื่อดิ้นรนทุรน ทุราย
เบื่อตะเกียกตะกาย หมายฝัน
ถึงตำแหน่งใหญ่โต โอ่กัน
ประชันโอ้อวด นวดคาง

เหยียบย่ำทับถม จมเกือก
ตาลีตาเหลือก เลือกข้าง
สวมเสื้อต้องสี นี้นาง
แบบอย่างตัวกู อยู่เป็น

ใครใหญ่ใครอยู่ ดูออก
รากงอกชอนไช ให้เห็น
หยั่งลึกยิ่งยาก กระชากกระเด็น
ซ่านเซ็นแตกฝอยร้อยรัด

เหนียวแน่นแผ่กว้าง สางยาก
ลำบากขุดรื้อ กำจัด
ยึดแล้วเข้าเส้น เด่นชัด
ยิ่งกว่าหมัดกัดกิน สุนัขจร.


วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วันยุ่ง ๆ



นัดพบกันตรงนี้ นะที่รัก
ยามแดดหักมุมแสง ด้วยแรงฝัน
เดินลัดเลาะเกาะแก่ง แข่งตะวัน
เช้าวันจันทร์เร่งรีบ บีบโมงยาม

มีอะไรหลายอย่าง วางรออยู่
มีกระทู้หลายประเด็น เป็นคำถาม
เปิดหน้านี้หน้านั้น หัวสั่นตาม
เปิดข้ามข้ามรอก่อนนะ จะประชุม

งบประมาณหน้าหนึ่ง มาถึงเปิด
โครงการเลิศเป็นร้อย คอยกองสุม
เพิ่งปิดงบเมื่อวาน งานยังรุม
ดูแล้วกลุ้มใจจัง..หวังจะลา

ฝันไปนะพักผ่อน ณ ตอนนี้
ไร้ความดีแถมความชั่ว เกิดทั่วหน้า
ไม่ขึ้นขั้นเงินเดือน เหมือน(เคย)ทำมา
เพราะศาตรา อยู่ในมือ ผู้ถือครอง


รูโหว่โชว์นโยบาย


รูโหว่ โผล่ช่องว่าง
ลู่เป็นทาง ล้างไม่สิ้น
ใต้พรม ซุกถมดิน
มันจะกิน ถึงไหนกัน

สงสาร เด็กตาดำ
หลอกให้จำ คำสร้างสรรค์
เพื่อหนู ให้รู้ทัน
โลกในฝัน อารยะ

แฮะแฮะ และก็เหลว
สังคมเลว ผู้ใหญ่คะ
หลอกเด็ก เล็กจะจะ
ถามหนูนะ จะบอกใบ้

อะไร ก็ไม่รู้
มาให้หนู เล่นอยู่ได้
สมองหนู รู้เท่าไร
ท่านรู้ไหม ใครโง่ลง

วันวัน เล่นแท็บเล็ต
รู้เท่าเป็ด อยากเป็นหงส์
ช้ำชอก บอกตรงตรง
หนูจะปลง กับใครดี

         


วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

แอก



ปลดแอก ที่แบกไว้
ก่อนจะตาย กลายเป็นผี
ทำได้ เท่าแรงมี
คงจะดี กว่าไม่ทำ

คร่ำครวญ ชวนให้เศร้า
มันปวดร้าว ราวโลกช้ำ
ใครเล่า เศร้าระกำ
จึงต้องจำ ให้เป็นไป

สองมือ ที่กอบกู้
เราซิรู้ ได้ถูไถ
พลังร่วม ยังอีกไกล
เมื่อหัวใจ ใช่หนึ่งเดียว..

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555

แบ่งปัน




สวัสดีวันหยุด ผุดผ่องใส
ด้วยหัวใจมาตรฐาน การรู้สึก
กับความชั่วความดี ที่สำนึก
จิตตรองตรึกกลั่นกรอง เป็นของเรา

ไม่มีใดด้านเดียว ที่เกี่ยวข้อง
ล้วนมีสอง สาม สี่ หน่อ ปลี เหง้า
จงพิเคราะห์ข่มจิต ก่อนคิดเอา
ขจัดเขลาสร้างปัญญา ตามท่าที

หยิบได้มากปัญญาเกิด ประเสริฐนัก
ไม่ต้องหนักแบกทุกข์ แสนสุขขี
หากวางทุกข์ไม่ได้ มากมายมี
ใช้ความดีผลักดัน มันพ้นไป

เป็นผู้ให้เสียบ้าง บางอย่างนั้น
หัดแบ่งปันวิมุติ พิสุทธิ์ใส
สังคมยังต้องการ ธารน้ำใจ
สละได้ก็เบา และเท่าทัน

หากคิดเข้าไม่คิดออก ขอบอกให้
พอกพูนไว้หมักหมม อาจจมท่าน
เมื่อความโลภถมร่าง แทนรางวัล
ถึงวันนั้นได้อะไร พึงไตร่ตรอง

หากแบ่งปันวันนี้ มีผู้รับ
สังคมจับตาแล ใช่แค่สอง
ความเหลื่อมล้ำมากล้น จนท้นนอง
แค่แบ่งของเหลือใช้..ก็ได้บุญ

เบื่อ


เบื่อสังคมไฮโซ ที่โก้เก๋
เบื่อทะเลเบื่อเกาะ เพราะไม่เชื่อ
เบื่อคนมากวุ่นวาย ไร้จุนเจือ
เค็มกว่าเกลือ ไร้เผื่อแผ่ เห็นแก่ตัว 

เบื่อสังคมแก่งแย่ง เบื่อแข่งขัน
ไม่แบ่งปันน้ำใจ เอาใส่หัว
ความชั่วให้เพื่อนไป ดีใส่ตัว
หลงเมามัว อำนาจ..วาดวิมาน



อย่าได้เสียเวลา (กับ) คำว่าเบื่อ
เวลาเหลือไม่มาก จากที่ผ่าน
ทำประโยชน์ใดบ้าง เป็นทางการ
หรืองุ่นง่าน ไปวันวัน แค่นั้นพอ ..
(ถามตนเอง) 




วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ภาพแทนคำ


ภาพนี้แทนคำ สำหรับแม่
มีรักแท้แน่นอน แม้ร้อนหนาว
จะยากดีมีจน ทนขื่นคาว
เพียงตื่นเช้า บุญปลูก ลูกมีกิน


ที่มา : 




วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กฎ-กรรม


แม้กฎหมายพ่ายแพ้ แก่หลายสิ่ง
แต่ความจริงไม่แพ้พ่าย สลายสูญ
กฎแห่งกรรมทำมา คือนาบุญ
ตอบแทนคุณทั้งบุญบาป โปรดทราบไว้..
.............
ที่มา

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อย่าทอดทิ้งชายแดนใต้


นี่คือคำขอร้อง ของคนใต้
ที่โชคร้ายรายวัน ขวัญผวา
รัฐบาลมองเห็นไหม ในสายตา
ปวงประชาเดือดร้อน ค่อนแผ่นดิน

หรือไม่ใช่ภาคเหนือ กลาง อีสาน
ที่ประทานคะแนนให้ ไร้ถวิล
เสียงคนเป็นคนตายโปรดได้ยิน
อย่าทิ้งถิ่นด้ามขวาน ประจานตน..


ต่างช่วงชิง


มองให้ลึกตรึกตรอง จึงมองเห็น
ว่าไฟเย็นลุกลน ระคนหมอง
ต่างแย่งยื้อให้ได้ ต่างหมายปอง
หวังปกครองช่วงชิง ประโยชน์ตน..





วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แผ่นดินร้องไห้

แผ่นดินใต้ร้องไห้ เป็นสายเลือด
แผ่นดินเดือดมานาน ไร้การแก้
ใช้เงินถมปัญหา ประดังประแด
ไม่เหลียวแลจริงจัง หวังอะไร

ปัญหาบางปัญหา แค่น้อยนิด
มันคบคิดเสนอหน้า สภาใหญ่
แต่ปัญหาคับแค้น ชายแดนไทย
อยู่สุดท้ายรอเก้อ เสมอมา

ต้องให้ตายกันอีก สักกี่ศพ
ถึงจะพบเงื่อนงม ปมปัญหา
หรือแผ่นดินถิ่นนี้ ที่มีมา
มันไร้ค่าเกินเก็บไว้ ในตำนาน

กี่เงินถมลงไป หาใช่น้อย
ปัญาปล่อยให้ใหญ่ เกินไขขาน
มีอะไรซ่อนเร้น เป็นนิทาน
เล่าลูกหลาน ฟังหน่อย จะคอยฟัง



วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไร้หวัง



นี่ซิที่ควรแก้..
ใช่มัวแต่ แก้กฎหมาย
เพื่อคนไทย ใช่พี่ชาย
หรือคนใต้ มิใช่คน

กี่น้ำตากี่คราวครั้ง
กี่ร้องสั่ง ดังกี่หน
กี่ร่างทบ ที่ทุกทน
ที่ซบหล่น บนหนทาง

กี่น้ำตา กี่คราวครั้ง
กี่ความหวัง ที่ทิ้งขว้าง
กี่ชวิต ที่ปลิดพราง
ไร้ควันจาง..ห่างเสียงปืน

ไร้หวัง และไร้หวัง
เมื่อเขานั่ง บัลลังก์ชื่น
จะวันนี้ หรือวานซืน
มีใครยื่น มาฟืนหวัง.

https://www.facebook.com/chintana.kongmuanpetch/posts/211546342305754?ref=notif&notif_t=like





วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อย่าหมิ่น..พระเจ้าแผ่นดิน


คนคิดต่างจากเราใช่เขาผิด
เขามีสิทธิ์จะคิดตามสิทธิ์เขา
แต่อย่าคิดลบหลู่แกล้งหูเบา
ลบหลู่เจ้าแผ่นดิน..หมิ่นราชา..

วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ดนตรีบนหลังคา



ปลิดปลิวพริ้วพริ้งสะดิ้งดีด
ลมหวีดหวิววู้พร่างพรูฝน
โมบายไม้ไผ่ไกวระคน
ดนตรีบนหลังคา..ซ่า่ซ่าซา





นโยบายซ่อนเร้น



เหลือบ ยุง ริ้น ไร แอบแฝง
แจกแจงไม่หมด เป็นสาย
วิสัยทัศน์ นโยบาย
เรียงรายซ่อนเร้น เป็นขบวน

อย่าคิดริเริ่ม สร้างสรรค์
อย่าฝันได้ประสบ ครบถ้วน
ตัด ตัำด ตัดงบ ทบทวน
สิ่งที่ควรทำ อ้ำอึ้ง

ซื้อ ซื้อ ขาย ขาย เปอร์เซ็นต์
ซ่อนเร้นมือยาว สาวถึง
ไม่อายยิ้มรื่น ดื่นดึง
นับหนึ่ง สอง สาม ทรามจริง

เกาะเกี่ยว



ด๊อก(เตอร์)

http://www.youtube.com/watch?v=BjK1juDL728


ด๊อกนำหน้าดีกรีกระดี๋กระด๋า
อ้างวิชาสู่รู้ดูบัดสี
เบี่ยงเบนประเด็นประดามี
เพียงเพื่อที่เข้าทาง..มาอ้างอิง


https://www.facebook.com/photo.php?fbid=363859500350296&set=a.192236660845915.44229.100001787485252&type=1&theater&notif_t=photo_comment_tagged



ฟ้ามีตา


วาทะกรรม คำสวยหรู
พร่างพรูงามเลิศ เฉิดฉาย
การศึกษาคุณธรรม นำนโยบาย
เรียงรายงามเลิศ ประเสริฐคน

ซับซ้อนซ่อนหุ่น พรุนพร่อง
แอบย่องช่วงชิง ประโยชน์ผล
แบ่งคุณธรรมค้ำชู ในหมู่ตน
โอ้! สวรรค์เบี้องบน ทนได้ไง

หากมีตาจริงจริง อย่างนิ่งเฉย
สนองเลยคนโกง เตรียมโลงใส่
จริงหรือไม่ดูดกิน เช่นริ้นไร
ที่ทำไปเช่นว่า ฟ้าเห็นนะ

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ของฝากจากทะเล


เก็บทะเลเหงาเหงา เอามาฝาก
เก็บมาจากทะเล ยามเหว่ว้า
เก็บมาเพื่อบางใคร ที่ไกลตา
เก็บเอามาส่งมอบ คนขอบฟ้า


อากงภาค 2


เมื่ออากงภาคสอง มาร้องร่ำ
แกล้งระยำวิกลจริต คิดเหยียบฟ้า
ปกป้องกันพัลวัน เห็นทันตา
มันอะไรกันนักหนา ประเทศไทย

แค่แสดงหยามเหยียด เกลียดกษัตริย์
ถึงกับจัดละคร เป็นตอนใหม่
สื่อทุกสื่อบ้าระห่ำ ทำเข้าไป
จุดสนใจเปลี่ยนทิศ..ริดสีดวง




วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไร้ขื่อแป


ตุลาการศาลรัฐ ธรรมนูญ
ใช่มีบุญก็เป็นได้ เช่นขายซื้อ
ล้วนต้องมีความรู้ เป็น อยู่ คือ
คนนับถือยุติธรรม ร่ำเรียนมา

นั่งบัลลังก์ใช่ใคร จะนั่งได้
แล้วชาติไพร่ที่ไหน มาเห่าด่า
ให้ตัดสินตามมัน ลั่นวาจา
เสียเวลาเรียนกฎหมาย ทำไมกัน

หรือจะให้กฎหมาย ไทยวิปลาศ
เพราะไร้มาตรฐาน คนพาลหั่น
ต้องตัดสินตามคนพาล สันดานมัน
ลงโทษทัณฑ์ไม่ได้..ไร้ขื่อแป 






วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ยี่งเข่ง


ดอกยี่เข่ง ข้างบ้าน ยังบานอยู่
สีชมพูดูดึ สียังสด
หากฝนมา ค่ำลง คงรันทด
กลีบช้ำหมด โรยร่วง จากพวงงาม


วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เกิดขึ้้น ตั้งอยู่และดับไป


ภาพ : 

เกิดขึ้นตั้งอยู่ และดับไป
ลิขิตไว้เช่นนี้ ไม่มีเปลี่ยน
วัฎจักรบาป-บุญ ให้หมุนเวียน
เป็นดั่งเที่ยน ส่องจิต..ก่อนปลิดปลง..

ที่มา :



นับเม็ดทราย


เดินนับทรายชายหาด วาดความคิด
ปล่อยให้จิตอิสระ ตามประสา
นับซากสัตว์ทะเล คลื่นเห่มา
ก่อนท้องฟ้าค่ำลง ตรงชายน้ำ



เช้าวันอาทิตย์



วันสบายสบาย สายแดดอุ่น
ไอละมุนกรุ่นฝัน วันอาทิตย์
อ่านบทกลอนงดงาม ในความคิด
หนอชีวิต งดงาม ตามความจริง..

ที่มา :


https://www.facebook.com/photo.php?fbid=502263353122296&set=a.141515802530388.27504.100000159070509&type=1&theater&notif_t=close_friend_activity

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เสียงมากลากกันมา



จงใช้เงินฝังกลบ รบกับศาล
นี่คืองานหมารับใช้ ให้เดินต่อ
หากตัดสินให้แพ้สั่ง อย่างรั้งรอ
ร่วมกันก่อความวุ่นวาย..ให้ตายกัน

ช่วยก่อกวน ยั่วเย้าให้ร้าวลึก
ช่วยสร้างศึกภายในให้ห่ำหั่น
ช่วยโหมไฟให้ลุกบุกประจัญ
อย่าไปหวั่น เราเสียงมาก ลากกันมา



วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555



เปียกปอน ก่อนเข้าบ้าน
ริ้วฝนร่าน รานร้าวร่วง
หนาวเหน็บ เจ็บถึงทรวง
ตะวันลวง ล่วงลับลา







ดอก อัญ ชัน สี ม่วง ไม่ ร่วง หล่น
แต่ สาย ฝน หล่น สะเด็ด ไอ เม็ด ฝน
กลีบ เบาบาง พร่าง พรับ กับใจคน
ดอก อัญชัน กับ เม็ด ฝน ปะปน กัน


(อรุณ  แก้วมณี)


ให้สงสารดอกร้าว ช่างหนาวหนัก
ฝนมาทักทุกวัน จนหวั่นไหว
กลีบเจ้าช้ำคล้ำหม่น ระคนใจ
ที่ร่วงไปโรยรา..ล้าโรย




อัญชัน เจ้าอัญเชิญ           หยาดฝน
ดับความทุกข์ร้อนรน         หม่นเศร้า
ล้างฝุ่นคราบเลือนหาย     ห่างสิ้น 
เคยเจ็บระบมเร้า               หยดหยาดล้าง ฝุ่นใจ..

(สิริชัย  สุนทร)



หยาดฝน ที่ หล่น เร้า         แรงลม
ฝนพร่าง พราย มา พรม     พร่าง หล้า
เม็ด ฝน หล่นเปียก เย็น    ไปทั่ว พนา
อัญชีญ เจ้าคงล้า              ร่วง แล้ว ลงดิน
(อรุณ  แก้วมณี)



ม็ดฝนพราว..เหน็บหนาวจนช้ำชอก

ลมพร่างพรายสายหมอกกระทบหิน
หล่่นร่วงแล้วอัญชัญเจ้าซบดิน
ดับสูญสิ้น..ดั่งคนสิ้นใจ



กลีบบางเบาดอกเหย้าสายฝนอยู่
กระทบเพียงกิ่งรู้เพียงครู่ไหว
ช่องดงามทำใครให้หวามไป
หลงละเมอเพ้อใคร่ภายใต้ดอกงาม..
(สุภีวดา  สุภาวดี)