วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

เช็ดน้ำตา


...แก้วกลีบช้ำ เพราะกรำฝน
จึงร่วงหล่นสะอื้น กับพื้นหญ้า
ฝนหนอฝนทำไม ไม่เมตตา
ปล่อยน้ำฟ้าท่วมถิ่น แผ่นดินเรา..

...ทั้งผักปลานาไร่ เสียหายหมด
ช่างรันทดอดสู เท่าภูเขา
ธรรมชาติวิปริต มิบรรเทา
ทุกข์จึงเท่า กันทุกภาค ลำบากใจ...

...ใต้-น้ำฝน ล้นเอ่อ เจอพายุ
เหนือ-ระอุ แทบดิ้น แผ่นดินไหว
อีสาน-ร้อน แล้งจัด พิบัติภัย
ทุกภาคไทยเป็นเช่นนี้ นะพี่น้อง...

...แล้วสงกรานต์บ้านนา จะมาถึง
แต่อนึ่งน้ำท่วม อ่วมหอห้อง
คงลอยเรือเล่นสงกรานต์ ย่านคูคลอง
ถนนนองน้ำหลากอยากลอยกระทง...

....มาเถอะนะแม่มา...
เช็ดน้ำตาให้แห้ง แกล้งร้องส่ง
ทุกข์ที่หนักวางปล่อย จะน้อยลง
ต้องปล่อยปลง วางแล้วว่าง อย่างสบาย...

....หลับเถอะนะแม่หลับ...
เรือมารับเจ้าแล้ว แก้วจันทร์ฉาย
ร้องเพลงเรือกล่อมขับ สลับลาย
มันอาจคลายทุกข์ท้น ที่ล้นใจ..


วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

เขียนหัวใจ



เขียนหัวใจแปะวางไว้ข้างฝา
แล้วบอกว่ารักมากจากใจนี้
บอกทุกวันทุกเวลาทุกนาที
ว่าฉันมีหนึ่งใจยิ่งใหญ่มาก...



ใจหาย



เหมือนมาพราก.หัวใจ.ไปสุดโลก
รู้สึกโศก.อย่างไร.ก็ไม่รู้
เมื่อเขาเดิน.เลยผละ.ผ่านประตู
บินไปสู่.โลกใหม่.ในน่านฟ้า...

 


 ไกลแค่ไหน.เพียงเมฆ.มาเสกกลบ
รอยถูกลบ.เลือนจาง.เป็นฟางฝ้า
รักแค่ไหน.ไกลกัน.เพียงจันทรา
ไล่ใฝ่คว้า.แค่เมฆขาว.ในราวราง...



วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554

วาง


เมื่อไม่ประมาณตนก็ทนเหนื่อย
หนักขึ้นเรื่อยเมื่อไม่วางอยู่อย่างนี้
ถ้าหากวางลงได้นั่นแหละดี
วางเพื่อที่จะว่าง...ควรวางลง

...@ เรื่องอะไร จะวาง ลงให้เหนื่อย
ถึงจะเปื่อย ก็ไม่วาง ให้ห่างเหิน
แม้แต่ก้าง ยังหวง อย่าล่วงเกิน
มนุษย์เดิน ตามรอย เป็นร้อยพัน
 
Phisin Jaturabundit
"กระดูกชิ้นโต" โอ๊ะโอ มองเห็นภาพ
พอจะทราบ รู้ซึ้ง ซึ่งปัญหา
อุปสรรค ขวากหนาม ตามตำรา
เกินปัญญา ที่จะแก้ แน่นอนเรา
 
 
Chintana Kongmuanpetch ‎....
ปัญหามีไว้แก้ไม่แพ้พ่าย
แต่อย่าใช้โลภะมันจะยุ่ง
อีกโมหะไม่ละวางนังตังนุง
มาแต่งปรุงเพิ่มรส..หมดกลิ่นเดิม
 
เศษกระดูก ถูกคนมอง ของไร้ค่า
สำหรับหมา มีค่า มหาศาล
คือเรื่องจริง ได้สิ่งของ ตามต้องการ
ได้เจือจาน ความสุขใจ ให้ทุกคน
 
Pinit Sukha ‎.
ท่านเอย ท่าน ข้า หลวง
ลมเลลวง ยกประชา อ้างว่าท่าน
แทะถาก สังคม ปมประจาน
เนื้อทาน กระดูกเหลือ เถือบุญคุณ
 
 
ข้าของหลวง ยิ่งกว่า ขี้ข้าราษฎร์
ไว้รองบาท นักการเมือง เรื่องขื่นขม
ประชาชน เลือกมา น่านิยม
เศษสังคม จึงอัดแน่น เต็มแผ่นดิน
 
 
ขอทานถือ กะลา เป็นยาจก
จะหยิบยก เพราะจนยาก ตากหน้าขอ
แต่ขอทาน ใส่สูท พูดสอพลอ
เท่าไรก็ ไม่พอ..โอ้ขอทาน
 
Sirichai Wisarakan ‎.
ถือกะลาขอทานท่านก็ว่า
จึงเปลี่ยนใจวางกะลามาขอท่า
ปล่อยกระดูกก็กลัวถูกท่านรับทาน
คาบอยู่นานกรามค้างไม่ว่างวาง
 
 
Chintana Kongmuanpetch ‎...
อันว่าโลภล้นพ้นจนน่าเกลียด
แขนก็เดียดปากก็คาบงาบทุกอย่าง
ไม่ว่าดินหินทรายตามรายทาง
คงจะเก็บไปสร้าง..ทางไปตาย...
 
 

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554

เหนื่อย


เหนื่อยนักขอพักก่อน
จะตื่นนอนตอนฟ้าใหม่
ใช่ท้อขอพักใจ
แค่หลับไปในคำนึง...


ไลท์สไตล์


อยากมีบ้านไลท์สไตล์ ไว้สักหลัง
ไว้นอนนั่งกินลม ชมแมกไม้
ตระเวณร่อนผ่อนพัก แวะทักทาย
เพื่อนหญิงชายได้ทั่วหน้า..ฟ้าธานี


รำพึง



อีกไม่นาน คงพาลพบ
ได้ประสบ เกินหลบพ้น
โรยร่วงร้าง ในวังวน
ชีวิตคน ก็เท่านี้..


ทำอะไร กันบ้างแล้ว
หรือเป็นแก้ว น้ำล้นปรี่
เติมเต็มไป ไม่ยินดี
อีกกี่ปี ก็จากไป


 

ควาย



 เปรียบควายโง่ แต่อย่าหมาย ว่าควายโง่
พวกคนโก้ทั้งหลาย อายควายบ้าง
ควายไม่เคย โกงใคร ตามรายทาง
อย่ามาอ้างว่าควาย..ให้อายค





วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554

ดอกไม้หนาว


 ดอกไม้หนาว น้ำค้าง บ้างไหมหนอ
หรือเจ้ารอ เวลานี้ ตามที่เห็น
เจ้าสดใส ชูช่อ ล้อความเย็น
หรือเจ้าเป็น เกินกว่า ข้าฯคาดเดา..

ดอกสำนึก


ดอกสำนึกอยู่ไหนใครรู้บ้าง
บนเส้นทางสายเมืองแสนเรืองรุ่ง
มีผู้ลากมากดีสีจรุง
กลิ่นหอมฟุ้งยามผ่านแม้ม่านบัง

...
ฤาน้ำใจหายหดแค่มดเยี่ยว
บนทางเปลี่ยวพื้นราบถูกสาปสั่ง
นกน้อยแอบสะอื้นยามคืนรัง
ฤาจะฝังร่างนี้..เป็นผีเมือง...

ศิลปิน : อิสระ

 
ศิลปินไหวหวามตามทางเคี้ยว
เมื่อโดดเดี่ยวเกาะสิงสิ่งอยู่ใกล้
เพียงแค่ได้แอบอิงพักพิงใจ
ตื่นวันใหม่อิสระจะโบยบิน