วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ข้าวใบเขียว



เขียวเขียว เขียวใบข้าว
เรียวใบยาว ข้าวใบเขียว
ไม่ช้า ออกรวงเรียว
ได้เก็บเกี่ยว เรียวรวงทอง


จะหลั่งถ้อยร้อยริน..จินตนา: แว่วสายลม :

จะหลั่งถ้อยร้อยริน..จินตนา: แว่วสายลม :

แว่วสายลม :





ลมหายใจ แห่งฉัน ณ วันนี้
มันยังมี เธออยู่ รู้บ้างไหม
แม้เวลา เลยผ่าน เนิ่นนานไป
ยังชัดใส ไหวหวาม อยู่ครามครัน 

เมื่อสวรรค์ มีตา ฟ้ากำหนด
ไม่ทดท้อ ระย่อ จะขอฝัน
ปีนที่สูงมุ่งสู่ประตูตะวัน
เพื่อเก็บมัน วันรุ่ง ของพรุ่งนี้

หลับคืนนี้ จะมีใคร ในใจเพ้อ
หรือในนั้น  มีเธอ เสมอนี่
หรือหลับหลับ ตื่นตื่น ขื่นราตรี
หรือว่ามี สิ่งหลอน ตอนเรานอน


ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป







ใครจะอยู่ สีไหน เราไม่ว่า
ขอเพียงอย่า หยามหมิ่น ภูมินทร์ข้า
เพราะเรารัก มั่นคง องค์ราชา
ขอเป็นข้า รองบาท ทุกชาติไป



วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แผ่นดินของเรา





ถ้าเราเหมือน คงไม่เห็น การเข่นฆ่า
เจรจา ด้วยสันติ วิถีปราชญ์
มันต่างที่ ประโยชน์ตน บนอำนาจ
ทำให้ชาติ อ่อนแอ และแย่ลง

ใช้เงินซื้อ ยื้อเงินขาย ได้อย่างคิด
คุณธรรม วิกฤต จิตประสงค์
ทำเพื่อตน พวกหมู่ อยู่ดำรง
ข่มเหงองค์ ราชัน มันไม่แคร์

มันยังคง หยามหยาบ ปราบไม่สิ้น
หรือแกล้งผิน หลังให้ ไม่แยแส
ปล่อยให้คน หยามหมิ่น ลิ้นรังแก
หรือว่าแค่ กลลวง...ติดบ่วงกล

แผ่นดินนี้ เคยสงบ รบไม่ขลาด
ประชาราษฎร์ เลือดทา มาหลายหน
มาเห็นไทย ฆ่ากัน มันเหลือทน
แค่วังวน กลลวง ด้วยบ่วงเิงิน....


โลกกว้าง



รู้ไหมว่า โลกใหญ่ ไพศาลนัก
มีความรัก ทุกแห่งหน บนฟ้าแล้ง
ขอแค่เพียง เดินออกมา อย่าล้าแรง
ก็เห็นแสง รังรอง ของตะวัน..



มองด้วยใจใฝ่รู้จะดูเห็น
ว่าโลกเป็นเช่นไรเหมือนในฝัน
แค่คิดว่าทุกอย่างคือรางวัล
ที่แบ่งปันให้ชีวิต..ลิขิตเอง





เสียงใบไผ่





สียงขลุ่ยครวญ พาดดาว ลมหนาวพัด
มันกร่อนกัด อารมณ์ ยามลมหวน
ดอกนมแมว กอนั้น กลิ่นรัญจวน
ให้ทบทวน บางอย่าง..ที่ร้างรา..





วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แบก-วาง-ว่าง



คนมีกรรมต้องใช้กรรมตามที่ติด
หากวางจิตลงได้ใจคงว่าง
ไม่ต้องแบกให้หนักจักอำพรา
ปีกบุญกาง ร่มเงา..ให้เราเอง

ก้าวเล็ก ๆ



ก้าวเล็กเล็ก ขอให้ก้าว สาวเท้าถี่
ก็ยังมี วันถึง ซึ่งจุดหมาย
อย่าลังเล กับเสียง ที่เรียงราย
มันอาจสาย เมื่อไปถึง..พึงระวัง