วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

หน้าที่ของน้ำค้าง


น้ำค้างแวะ.ทักทาย..กับใบหญ้า
แล้วถามว่า..เจ้าหนาวไหม
เราแค่เพียง.มาค้าง..แล้วจางไป
หากเจ้าไม่.ให้ค้าง..คงร้างลา

หน้าที่เรา.ลงมา..หาที่ค้าง
ไม่ต้องสร้าง.ที่อยู่..ให้หรูหรา
เพียงใบไม้.บางบาง..ให้ค้างคา
เราก็กล้า.จะค้าง..ริมทางเดิน


เมื่อตะวัน.สาดส่อง..เต็มท้องฟ้า
เราก็ลา.จากเจ้า..ดินเขาเขิน
กลับมาใหม่.คืนหนาวสั่ง.ใช่บังเอิญ
คงนานเนิ่น.เช่นนี้...และจีรัง...





วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เหลี่ยม



บวบเหนี่ยวยึดยึดเหนี่ยว..เพื่อเกี่ยวเกาะ
แค่พอเหมาะไม่หักงอ..พอค้ำไหว
พยุงต้นพยุงร่าง..ก้านกิ่งใบ
เมื่อเติบใหญ่ผลหนัก..อาจหักราญ

เหลี่ยมบวบก็เป็นเหลี่ยม..ธรรมชาติ
ไม่คมบาดแค่เลื้อยเลาะ..เกาะตามร้าน
แต่เหลี่ยมคนนั้นหนา..น่ารำคาญ
เหลี่ยมคนพาลยิ่งควรหลีก..ปลีกให้ไกล


หนาว (2)


..ใง.ร่องย.
ฝ่า.ป่
หยดน้ำค้าง.เมื่อคืน.ยังชื้นพราว
เป็นเรื่องราว.หนาวหนาว.และร้าวราน.. 

..คิดถึงใคร.ที่ไหน.ก็ไม่รู้
จะยังอยู่.อ้างว้าง.บนทางผ่าน
วันเวลา.แห่งฝัน.มันเนิ่นนาน
ดอกไม้บาน.เฉาเหี่ยว.หมดเรี่ยวแรง..

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

หนาว




คิดถึง.ฉันไหม.คนไกลโพ้น
อยากตะโกน.ข้ามฟ้า.ทะเลใส
ว่าฉันนี้.คิดถึง.เต็มหนึ่งใจ
ได้ยินไหม.โปรดบอกด้วย.ช่วยตอบที


ลมหนาวพัด.กัดกร่อน.ตอนรุ่งสาง
เจ้ามอมคราง.ข้างกองไฟ.กองใหญ่นี้
แม่เฒ่าเติม.ฟืนต่อ.ไฟพอดี
เด็กน้อยรี่.เข้ามาอิง.ผิงไฟควัน

หยิบมันเผา.พอสุก.คลุกขี้เถ้า
แกะเปลือกเป่า.อุ่นอุ่น.ช่างกรุ่นฝัน
.......................และนี่คือรางวัล
มอบให้กัน.วันฟ้าหนาว...ดาวจงรู้

.......................