วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทหารแท้




เมื่อพี่น้องร่วมชาติอนาถทุกข์
ใครจะสุขอยู่ได้ไม่มาแก้
ใครจะผูกใครจะชังใครรังแก
ทหารแท้ คือช่วยเหลือ เมื่อไทยทุกข์..




ขายขำ..ผู้นำไทย


น่าสงสารอัดอััน..ไม้กันหมา
ยอมถูกด่าเพื่อพี่ชาย..ได้สมหวัง
เป็นหุ่นเชิดเลิศลอย..ต้องคอยฟัง
ใครร้องสั่งอย่างไร..ก็ทำตา


ใครเขียนมาให้อ่าน..ก็ขานขั
ท่องสดับสำเนียง..เลี่ยงคำถาม
แสนสงสารคนฟัง..นั่งประนาม
ให้นิยาม "ขายขำ ผู้นำไทย"

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ปล่อย



จะเห่าหอน กันไป ถึงไหนนั่น
จะรำพัน กันไป ถึงไหนนี่
ท้ายที่สุด สุดท้าย ตายอยู่ดี
เลิกแบ่งสี แบ่งพรรค..มารักกัน



น้ำท่วมกรุง..ผักบุ้งโหรงแหรง



น่าสังเวช ประเทศไทย ที่ใหญ่ยิ่ง
ถูกแม่หญิง ปกครอง จนร่องแหร่ง
เมื่อน้ำท่วม เมืองหลวง จนร่วงแรง
ผักบุ้งแซง แย่งกันโผล่..โชว์สายตา



วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ใครสาปแช่งใครไว้หลายเดือนก่อน







 คิวต่อไปที่ไหนใคร่อยากรู้
 เหล่ากูรูบอกว่าเป็นเมืองหลวง
 คือบาปกรรมที่ทำมาตามทวง
 ให้ตกบ่วงเหวกรรม..อันล้ำลึก

 
ใครสาปแช่งใครไว้หลายเดือนก่อน
 มันมาย้อนสนองคืนยามดื่นดึก
 กฎแห่งกรรมกระโดดใส่ใครจะนึก
 ความรู้สึกไร้หนทาง..คนสร้างกรรม








วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เปลือกธรรม






ถึงยุคเสื่อมเลื่อมพรายเป็นลายริ้ว
คำภีร์ปลิวไร้ค่า..อย่ามาสอน
พระธรรมอยู่ในตู้ฤดูกาล
ภิกษุขาน เปลือกธรรม..ว่าพระธรรม




วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สูงสุดสู่สามัญ



เพื่อนต่างสีต่างลายต่างสายชั้น
มาแบ่งปันอมยิ้มอิ่มความหมา
คนหรือสัตว์ดิ้นรนพ้นความตา
แต่สุดท้าย สูงสุดกู่..สู่สามัญ




วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ฝ่ากระแสน้ำไปด้วยกัน



ว่ายฝ่ากระแสน้ำในยามทุกข์
สัตว์ไร้สุขคนโศกจนโลกหม่น
น้ำท่วมกรุงเก่าหนักเกินจักทน
โอ้ฟ้าฝน ตั้งเค้า อีกคราวแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เหลืออะไร



ไร้คำจะเอื้อนเอ่ย
ไม่เคยพบไม่เคยเห็น

น้ำตาไทยกระเซ็น
จะเป็นเช่นนี้อีกกี่วัน



อยุธยาจมใต้น้ำ
ยิ่งกว่ายามเสียเขตขัณฑ์
ยังเหลือป่าพนาวัน
นี่มันเหลือเชื่อเหลืออะไร






วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คอยลมเกี่ยวใจ




ลมยังพริ้วปลิวโบกกระโชกเรื่อย
ดูไม่เหนื่อยเลยลมห่มฟ้าค่ำ
แมงกลางคืนสะอื้นเสียงงึมงำ
แว่วลำนำเพลงช้า...จากฟ้าไกล...



ชนชั้น





จะนกกาห่านหงส์ใจคงรู้
ว่าตัวกูสูงต่ำดำหรือขาว
ใช่ภาพลักษณ์จักตอกบอกเรื่องราว
จะผ่องพราวขาวดำรู้..ดูที่ใจ









วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ธรรมชาติลงทัณฑ์






เห็นหรือยังในที่สุดมนุษย์เอ๋ย
อะไรเลยที่เหลือเพื่อให้เห็น
ธรรมชาติเอาคืนยื่นประเด็น
และมันเป็นเช่นนี้..มานิรันดร์

ยังแย่งชิงเด่นดีแบ่งสีเสื้อ
แล้วที่เหลือคือว่างปล่าเขลาไหมนั่น
มาร่วมมือฝ่าทุกข์ยากฝากถึงกัน
ธรรมชาติ ประชาทัณฑ์...กันทั่วแล้ว








วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

น้ำท่วมไทย




ตกกระหน่ำซ้ำชัดระบัดไหว
ทำอย่างน้ำนองเต็มท้องทุ่ง
ไหลทะลักเข้าเมืองนองเนืองกรุง
อยุธยาน้ำมุ่งเต็มคุ้งลาน


 รักษาตัวไว้นะญาติมิตร
อย่ายึดติดสมบัตพัสถาน
หาเอาใหม่ข้างหน้าไม่ช้านาน
ของให้ท่านอพยพหลบน้ำเลย


วิปริตฝนฟ้าพายุซ้ำ
จึงระกำไม่หยุดพุทโธเอ๋ย
ช่วยกันนะน้ำใจไทยอย่างเคย
อย่าอยู่เฉยพี่น้อง..ยามต้องทุกข์

· ·

ตระหนก




เสียงประทัดสนั่นลั่นไปทั่ว
มันน่ากลัวหรือครึกครื้นให้ตื่นเต้น
ไม่อยากยินเสียงนี้มีประเด็น
เกือบตกเป็นเหยื่อระเบิดบ้านเกิดตน


ได้ยินประทัดดังยังผวา
ตระหนกตื่นทุกคราไร้เหตุผล
แล้วจะหนีไปไหนหนีใจตน
ก็ไม่พ้นทนผวาละล้าละลัง


วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

โลกนี้คือละคร




ไม่อยากจะทำกร่างแบบอย่างเขา
มันคงไม่เข้าท่าประสาหญิง
แต่ใยมีผู้ซึ่งมาพึ่งพิง
ให้ทำสิ่งโน่นนี่หน้าที่นำ


แล้วคนที่เป็นชายคล้ายเข้มแข็ง
ไม่แสดงบทบาทวางมาดขำ
ดูอ่อนแอแป้ป้อนั่งรอคำ
แล้วจะทำไฉนอย่างไรกัน

ทั้งสิ้นคิดสิ้นคำทำลวงโลก
ทั้งสับโขลกโยกงบกลบจัดสรร
เก่งอย่างเดียวคือโกงกินจนลิ้นพัน
เมื่อถึงวันต้องเคลียร์..เอี้ยกบดาน





วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อยากลืมกลับจำ




อยากลืมเรื่องไร้สาระรกสมอง
เก็บมากองฝังดินให้สิ้นซาก
หรือว่าเผาทำลายคล้ายปิดฉาก
หรือไม่ฝากทะเลลมไปถมทราย


ทำอย่างไรก็ยังจำน่าขำนี่
จะกี่เดือนกี่ปีไม่สลาย
ยังเด่นชัดยิ่งฝันพรรณราย
เจ็บเจียนตาย เมื่อตื่น..ฟื้นขึ้นมา


อยากจะลบอยากจะลืมเรื่องรกรก
แล้วเก็บตกสาระตามประสา
ทำวันนี้ตามความเชื่อเหลือเวลา
มันอาจช้าหากไม่ทำ..ตามที่คิด








ถึงเวลา..ฟ้อง




หัวใจ.ละเหี่ย.เป็นเบี้ยล่าง
คนสมอ้าง.ถือกฎหมาย.ช่างขายหน้า
เที่ยวข่มขู่.เชิดหู.ดูหางตา
จะรู้ว่า.ใครแน่..มาแก้อาย


มาเจอคน.รู้กว่า.ทำหน้าเร้อ
แล้วจะเจอ.ถูกฟ้อง.ต้องกฎหมาย
สวัสดิการ.ของคน.ป่นทำลาย
ไม่กลัวตาย บอกให้รู้..ดูต่อไป



ในเมื่อรอมชอม.ไม่ได้ผล
ก็แค่คน.เหมือนกัน.ไม่หวั่นไหว
ถึงเวลา.ต้องล้าง.หรืออย่างไร
ฟ้องมันให้.รู้ว่า.ใช่ค้าความ



แต่ต้องการ.มาตรวัด.บรรทัดฐาน

เมื่อทำงาน.ไร้ยุติธรรม.ถูกหยันหยาม
มันต้องเล่น.บทหนัก.กันสักยาม
แล้วนับหนึ่ง.สองสาม.ก้าวข้ามไป



ถึงทางตัน.หันมาสู้.เพื่อดูผล
เขาก็คน.เราก็คน.ทนไม่ไหว
ถูกบีฑา.บ้าบอ.ท้อทำไม
ใยไม่ใช้.กฎหมาย..ไว้ช่วยคน



หรือว่ากฎหมาย.บ้านเมืองนี้

เขียนให้มี.เข่นฆ่า.โฉดช้าฉ
ไม่ได้แก้.ปัญหา.ประชาชน
เพราะว่ามนต์.แห่งกฎหมู่..มันดูดี


เพลานี้.คนดี.ล้วนหนีหาย
เหลือเพียงใหญ่.คับฟ้า.ประดาผี
สูบไม่เลือก.เกลือกกระหาย.ในบัตรพลี
ไม่รักษา.หน้าที่.พลีแผ่นดิน (หวาน คำ)


เพราะสันดาน.คนดี.ที่ถูกต้อง
ไม่สนอง.อำนาจ.จนชาติสิ้น
ข้าราชการ.ตัวดี.ที่โกงกิน
เพราะใช้ลิ้น.เลียหวัง.เด่นดังดี


แค่เขาโยน.ตำแหน่งใหญ่.ก็ใจปลื้ม
ลืมตัว.ลืมตน.ลืมหน้าที่
รับใช้เยี่ยงทาสกระวาดกระวี
ลืมศักดิ์ศรี.ความเป็นคน..สับสนจริง










ขี้ข้าเงิน







เงินเป็นถุง เป็นถัง นั่งยิ้มแฉ่ง

ใครจะแข่ง วาสนา ขี้ข้าไพร่

ทำดีทำชอบ มอบกันไป

เมื่อเลือกไร้ ศักดิ์ศรี ขี้ข้าเงิน



RAIN



ฟ้าร่ำมิยอมหยุดหย่อน
เปียกปอนท่วมทั่วหัวระแหง
ชาวนาอุตส่าห์ลงแรง
ใยแกล้งกันได้ลงคอ


สัตว์เลี้ยงตายน่าอนาถ
พายุสาดฝนซัดพัดต่อ
ยากแค้นขื่นข้นทนรอ
ใครหนอพอได้เยียวยา


จะอยู่จะกินถิ่นนี้
มากมีทุเรศเสดสา
กินข้าวแจกแลกน้ำตา
ชาวนาสิ้นข้าว..ร้าวใจ






ใจหนึ่ง






หนึ่งใจคือใจหนึ่ง

หวังพึ่งพาประสารัก

เวลานำพาชัก

ให้ใจขวักไขว่ในมายา