วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555




ภาพ : สุคม  ศรีนวล

เผด็จการรัฐสภา ช่างน่าเกลียด
เป็นเสนียดจัญไร ไม่เคยเห็น
บีบบังคับรับร่าง ข้างประเด็น
ทั้งที่เป็น ปัญหา..คาแผ่นดิน

ต้องเร่งด่วนด่วนจี๋ โอ้พี่ขา
รีบกลับมาอย่างไว..คนใจหิน
เห็นบ้านเมืองวิกฤติ สมจิตจินต์
รีบกลับมาดื่มกิน..วันสิ้นไทย




วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สิ้นลาย




แสนเสียดายดอกไม้ ตั้งหลายดอก
เมื่อท่านหลอกคนไทย ให้ระส่ำ
เคยมอบให้ ด้วยรัก ที่หักลำ
ล้มคมำทักษิณ แทบสิ้นใจ

ท่านเคยเป็นฮีโร่..แม้ขมขื่น
เพราะท่านยืน สู่ฟัด ปฏิวัติใหม่
ทั้งที่เราก็รักประชาธิปไตย
แต่เคยปรบมือให้ ด้วยใจจริง

แต่วันนี้ใยท่าน ลั่นกลองรับ
อะไรงับ ท่านอยู่ เข้าสู่สิง
ประชาชน ไร้หลัก จะพักพิง
ใยท่านกลิ้ง พลิกลิ้น จนสิ้นลาย..



วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ปรองดองเพื่อใคร



เขาว่าเป็นปรองดอง ของประเทศ
เขาบอกเขตปรองดอง ไม่ต้องห่วง
เขาบอกว่าหมดความผิด ที่ติดทวง
เขาบอกบ่วง ไม่มี..ดีใจจัง

ใครทำผิดพ้นผิด อย่าติดค้าง
ใครที่สร้างรอยแผล แต่หนหลัง
ขาวสะอาด สดใส ไม่ใครชัง
ใครที่สั่งเผาบ้านเมือง เรื่องจบกัน

เปิดประตูเมืองไทยเชิญพี่กลับ
มาประทับแท่นทองน้องรับขวัญ
เตรียมเสนาซ้ายขวาหน้าบัลลังก์
เชิญพี่นั่ง ยิ่งใหญ่..ต่อไปนี้




วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

กลีบช้ำ



เจ้าโผล่มาดอกเดียว เดี่ยวโดด
น้ำฝนโหดเมื่อคืน สะอื้นร่ำ
กลีบของเจ้าหายไป ในฝนพรำ
ดอกจึงซ้ำ เปียกปอน ในฟอนฟาง

เพื่อนเพื่อนเขา หายไป อยู่ไหนหนอ
จึงปล่อยเจ้า ชูคอ ในความว่าง
ปล่อยสายฝน ตกกระหน่ำ ซ้ำกลีบบาง
เหลือเพียงร่าง แหว่งวิ่น ราวสิ้นแรง

นั่นซินะ..ดูแล้วเหงา เจ้าดอกหญ้า
เจ้าโผล่มาได้ไง ไม่กลัวแสง
วันนี้ร้อนแดดกล้ากร้าน ผ่านระแนง
หรือดินฟ้ากล้าแกล้ง..แล้งน้ำใจ.. 

ฟ้าจะแล้ง น้ำใจ อย่างไรเล่า
ฝนยังเย้า ลมยังโชย พัดโบยไหว
แดดแผดกล้า นั่นหนอ ก็เพราะใคร
หากมิใช่ คนชั่วช้า ขายป่ากิน!! 

โอ๊ะ โอ้ โห โถโกรธ โทษดินฟ้า
ที่แท้ป่าหมดป่า หมดอาสิน
ธรรมชาติลงโทษ โปรดได้ยิน
พวกโกงกิน สินป่า ช่วยด่ามัน..

ด่าแสบคอ แล้วนิ พี่จินตนา
คนชั่วช้า ใช่ว่า จะอาสัญ
ยังละโมบ โลภเอา อย่างเมามัน
รวมหัวกัน โกงกิน ทั้งดินแดน


วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เก็บมาฝาก



เก็บน้ำฝนมาฝาก จากหยาดฝน
เก็บน้ำมนต์มาฝาก จากบาตรใหญ่
เก็บน้ำใจมาฝาก จากหัวใจ
เก็บดอกไม้มาฝาก..จากต้นไม้..




วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ชื่นเช้า หนาวน้ำค้าง


กลีบบางบาง บนทางเท้า..
น้ำค้างหนาว ฉ่ำชื้น ในคืนหนาว
สุขมิได้เรียบเรียง ณ เชียงดาว
ยังฉ่ำเช้า หมอกชื้น ให้ตื่นตา



ชื่นเช้า



หมาดน้ำฉ่ำชื้นชื่นเช้า
หยาดพราวหยดใสใบต้น
อีกพักแดดฉานลานลน
ใบหม่นหล่นร่วงพวงพราว




วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ขับไล่มันให้พ้นแผ่นดิน


ไอ้ อีไหน ก่อการ บ้านเมืองนี้
เขาอยู่ดี มาตั้งนาน แต่กาลก่อน
ริสร้างความ แตกแยก แลกเงินฟอน
หมู่บ้านร้อน สีแดง แบ่งใครกัน

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่เมือง เรืองรักษา
ขอท่านย่าฯ ปกป้อง พี่น้องนั่น
อย่าให้โจร ปล้นไป ในรุ่งวัน
ขับไล่มัน ไปให้พ้น..พ้นแผ่นดิน

เมื่อสูง



เมื่อสูงเด่นกลางฟ้า เวหาหน
ก็ไม่ควรมองคนต่ำ เข้าย่ำข่ม
สูงอยู่ได้ใช่เกินสอย ลอยอาจจม
หมั่นสร้างสม เมตตา บารมี




วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ชนเพดาน



เมื่อตำแหน่งใหญ่โตเหมือนโก้เก๋
ก็ร่อนเร่หาที่ลงน่าสงสาร
เมื่อไม่มีต้องรอเหมือนขอทาน
เห็นรูปการณ์ แล้วไม่รุ่ง แถมรุงรัง

ขวัญกระเจิงเพลิงกระจาย พ่ายอำนาจ
เมื่อประกาศล้างบาง อย่างบ้าคลั่ง
ใครพะเหน้าพะนอ สอพลอจัง
ก็ได้นั่ง ที่เก่า เก้าอี้เย็น

ชนเพดานงานนี้ คุณพี่ขา
บากหน้ามาขอร้อง โปรดมองเห็น
หากไม่ให้หนูจะย้าย คลายประเด็น
พูดไม่เป็น เขาจึงชัง นั่งร้อนรน




วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อุ่ น ไ อ ใ น ถ้ อ ย คำ : แ ห่ ง วั ย วั น


ย้อนจำย้ำใจในวัยวัน
ย้อนฝันวันคืนเคยชื่นหวาน
รอยยิ้มริมแก้มใครแย้มบาน
เนิ่นนานยังหวานล้ำ--จรดค่ำนี้
( Krerkbura Wanavongworawiwat)

แต่งแต้ม ริมแก้มฟ้า
แสงทองทา เป็นภาพสี
แสงค่ำ ย้ำวลี
ทวนฤดี..ที่ผ่านวัน
(โอชิน)

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เก็บดอกไม้มาฝาก



เก็บดอกไม้มาฝาก จากฟ้าโน้น
ฟ้าที่โดนสายฟ้า ผ่ากลางฟ้า
ฟ้าที่เริ่มมืดมน บนเวลา
ฟ้าที่สีไม่ฟ้า..แต่ฝ้าฟาง



หากินกับศพอากง







ได้โอกาส สาดวาทะ

ได้จังหวะ จากซากศพ
โหมกระหน่ำ ฝ่าทำนบ
ล้างระบบ..ลบกฎหมาย





วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แดดสุดท้าย มาลีฮวนน่า(ระบบเสียงดี)






แดดสุดท้ายหายไป หลายวันแล้ว
กลิ่นดอกแก้วหอมกรุ่น..ละมุนฝัน
ละอองฝนโปรยปราย มาหลายวัน
ไร้แดดอันอบอุ่น..ละมุนละไม

หรือใจเริ่มหนาวเหน็บเจ็บรู้สึก
ที่ฝังลึกในนิยามความหวามไหว
หรือโหยหาต้นทุนที่อุ่นไอ
หรืออะไร..ใจนี้..ที่ต้องการ





ล้างบาง



ถึงทางตันอีกแล้ว หนอชีวิต
ที่สถิตย์เริ่มร้อน เหมือนฟอนสุม
เมื่ออำนาจบาทใหญ่ มาเร้ารุม
คนสาวหนุ่มรุ่นใหม่ โดนไฟเลีย

ร้อนปวดแสบแปลบปลาบ คมดาบบิ่น
เมื่อเจ้าถิ่นกลับมาใหม่ คิดไล่เบี้ย
ให้หญ้าแพรกแหลกราญ ไร้การเจียร
เหล่ากองเชียร์ส่งข่าว..เขาล้างบาง